ตลท. เผยตลาดหุ้นไทย มูลค่าการซื้อขายเดือน พ.ค.66 หดตัว31%

ภาวะตลาดหุ้นไทยเดือนพฤษภาคม 66 มูลค่าซื้อขายหด กว่า31%เกิดจากความกังวลต่อ 2 ปัจจัยหลัก

นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ในเดือนพฤษภาคม 2566 มีความผันผวนในตลาดค่อนข้างสูง นอกจากนี้ยังกระทบจากปัจจัยภายในและภายนอกประเทศ เช่น ข้อตกลงการเพิ่มเพดานหนี้ของทางสหรัฐฯ และ ผลการเลือกตั้ง ปี 2566 นั่นเอง

จากความคืบหน้าในการเจรจาปรับเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐฯ ทำให้ผู้ลงทุนเริ่มคลายความกังวลเกี่ยวกับการผิดนัดชำระหนี้ของพันธบัตรรัฐบาล ประกอบกับผลการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงินของสหรัฐ (FOMC) สะท้อนมุมมองว่า FED น่าจะอยู่ใกล้จุดที่จะยุติการขึ้นดอกเบี้ยแล้วทำให้เห็นสัญญาณเชิงบวกในการลงทุน ในขณะที่เศรษฐกิจไทยอยู่ในช่วงกำลังฟื้นตัวและความเสี่ยงจากเงินเฟ้อสูงมีอยู่จำกัดทำให้ธนาคารแห่งประเทศไทยยังคงขึ้นดอกเบี้ยแบบค่อยเป็นค่อยไป 

อีกทั้งการปรับเพดานหนี้ของทางสหรัฐฯ​ เกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้ง ถือเป็นเป็นกลไกทางการเมืองระหว่างฝ่ายบริหารกับนิติบัญญัติของประเทศนั้นที่เมื่อใดที่หนี้ชนเพดานแม้แต่ค่าใช้จ่ายนิดเดียวก็จะไม่สามารถใช้จ่ายได้เลย นักลงทุนไทยจึงไม่จำเป็นต้องกังวลใดๆเพราะทางประเทศไทยไม่ได้ใช้ระบบบริหารนี้ ทางของเราจะเป็นระบบที่เติบโตไปพร้อมกันระหว่างค่า GDP กับการขยายของเพดานหนี้นั่นเอง

หลังการประกาศผลการเลือกตั้งเงินทุนต่างชาติได้มีการไหลออกเพียงระยะสั้น แต่คาดว่าหากไม่มีนโยบายที่กระทบต่อความสามารถในการแข่งขันของประเทศและมีการเพิ่มต้นทุนในการทำธุรกิจ รวมถึงอัตราส่วน Forward P/E ที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต นักวิเคราะห์คาดว่าเงินทุนต่างชาติจะไหลกลับเข้ามาทำการลงทุนเพิ่มขึ้นในช่วง 5 เดือนแรกของปี

ภาวะตลาดหลักทรัพย์ไทย ประจำเดือน พฤษภาคม 2566

ช่วงสิ้นเดือน SET Index ปิดที่ 1,533.54 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 0.3% จากเดือนก่อนหน้า และปรับลดลง 8.1% เมื่อเทียบกับสิ้นปีก่อนหน้า โดยปรับไปในทิศทางเดียวกับดัชนีตลาดหลักทรัพย์อื่นใน ASEAN  

· กลุ่มอุตสาหกรรมที่ปรับตัวดีกว่า SET Index เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2565 ได้แก่ กลุ่มเทคโนโลยี และ กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค กลุ่มการเงิน กลุ่มบริการ และ กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง 

· มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันใน SET และ mai อยู่ที่ 54,189 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนหน้า 31.6% โดยมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันในห้าเดือนแรกปี 2566 อยู่ที่ 60,933 ล้านบาท

· ผู้ลงทุนต่างชาติขายสุทธิเป็นเดือนที่สี่ ผู้ลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 33,407 ล้านบาท อย่างไรก็ดี ผู้ลงทุนต่างประเทศมีสัดส่วนมูลค่าการซื้อขายสูงสุดต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 13 

· บริษัทเข้าจดทะเบียนใหม่ซื้อขายใน SET 1 หลักทรัพย์ ได้แก่ บมจ. จีเอเบิล (GABLE) 

· Forward P/E ของตลาดหลักทรัพย์ไทย ในช่วงสิ้นเดือน อยู่ที่ระดับ 16.1 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ระดับ 12.5 เท่า และ Historical P/E อยู่ที่ระดับ 20.8 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ระดับ 14.1 เท่า 

· อัตราเงินปันผลตอบแทน ในช่วงสิ้นเดือน อยู่ที่ระดับ 3.17% ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ 3.46% 

ภาวะตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ในเดือนพฤษภาคม 2566 

ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 501,638 สัญญา เพิ่มขึ้น 19.3% จากเดือนก่อน โดยเฉพาะในส่วนของ SET50 Index Futures และ Single Stock Futures 

ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2566 มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน  548,016 สัญญา ลดลง 3.1% จากปีก่อน โดยเฉพาะในส่วนของ Single Stock Futures 


#สรุปภาพรวมตลาดหลักทรัพย์ประเทศไทย #สรุปตลาดประจำเดือน #SET